เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๕ ก.ย. ๒๕๔๗

 

เทศน์เช้า วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๔๗
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดสันติธรรมาราม ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

เวลาในร่างกายของมนุษย์ เห็นไหม มันมีเชื้อโรคอยู่ด้วย เวลามีเชื้อโรค เราเกิดมาในร่างกายของเรามันก็มีเม็ดเลือดขาวคอยต่อต้านเชื้อโรค เห็นไหม โดยระบบธรรมชาติมันมีอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันนี้วิทยาศาสตร์มันเจริญเพราะหมอ การเจริญของแพทย์ แพทย์เขาวิเคราะห์ เขาวิจัยโรคต่างๆ ได้ แล้วเขารักษาโรคนี้ได้ เพื่อจะให้ร่างกายของเราแข็งแรง ให้ร่างกายมนุษย์มีอายุยืนนาน ทุกคนอยากมีอายุยืนนาน

ในเรื่องในร่างกายของเรามันก็มีสิ่งที่ว่าเป็นธรรมชาติของมันที่มันต่อต้านกับโรคภัยไข้เจ็บอยู่โดยธรรมชาติของมัน เห็นไหม แต่มนุษย์เราก็มี เห็นไหม เวลาเกิดมาเป็นกรรมพันธุ์น่ะ โรคต่างๆ ที่มันมีอยู่ในร่างกาย เห็นไหม อันนั้นอยู่ที่เรื่องของกรรมไง ถ้าเรื่องของกรรมสภาวะเป็นแบบนั้น วิทยาศาสตร์เจริญขนาดไหน เรื่องของกรรมมันคิดค้นตลอดไป เห็นไหม แล้วเชื้อโรคมันก็จะแปรสภาพไป อย่างเช่น ไวรัสต่างๆ น่ากลัวมาก เพราะมันทางวิทยาศาสตร์เขาต้องต่อต้าน เขาพยายามต้องหายาคุมไว้ให้ได้ไง สิ่งนี้คุมไว้ เห็นไหม

ดูโลกสิ มันเป็นสภาวะแบบใด โลกคือหมู่สัตว์นะ โลกนี้คือเรา คน มนุษย์คนหนึ่ง จักรวาลหนึ่ง จักรวาลหนึ่ง เห็นไหม มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางจักรวาล นี่มันหมุนไป ในชีวิตของเรามีร่างกายของเราในจักรวาล ในจักรวาลของเรา เห็นไหม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจมันออกสภาวะแบบใด มันส่งออกไปขนาดไหน แล้วย้อนกลับมาจุดกึ่งกลาง จุดของจักรวาลคือดวงอาทิตย์ใช่ไหม จุดความสุขความทุกข์ของเราคือหัวใจใช่ไหม ถ้าหัวใจของเรามันสถานอยู่ตรงกลางหัวใจอย่างนี้ มันเป็นความมหัศจรรย์ยิ่งกว่าจักรวาลอีกนะ

เพราะจักรวาลมันหมุนไป ดวงอาทิตย์มันเกิดขึ้น ดวงอาทิตย์ต้องมีวันดับ แต่ดวงใจดวงนี้จะไม่มีวันดับเลย ความรู้สึกของใจนี้จะไม่มีวันดับ มันจะเป็นสภาวะแบบนี้ตลอดไป ถ้ามันมีเชื้อโรคอยู่ มันขับเคลื่อนไปอยู่ เห็นไหม เชื้อโรคของใจ ถ้าเชื้อโรคของใจเราจะหาอะไรเป็นเชื้อโรคของใจ เชื้อโรคของร่างกายหมอเขาวิเคราะห์ได้ หมอเขารักษาได้ ทั้งๆ ที่ว่ารักษาได้นะ แต่มันก็มีกรรมพันธุ์ มีโรคบางอย่างที่รักษาไม่ได้ โรคกรรมพันธุ์ที่ว่ามันเป็นสิ่งที่มากับร่างกายนั้น

นี่ก็เหมือนกัน โรคของใจรักษาได้ รักษาได้ด้วยธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารักษาใจอันนี้ได้ เห็นไหม จักรวาลนี้มันยังต้องมีแปรสภาพ จักรวาลนี้ยังต้องสลายไป จักรวาลนี้ต้องสลายไป เห็นไหม แต่ดวงใจดวงนี้จะไม่มีความตายไป

เวลามนุษย์ตายนี่เปลี่ยนสภาวะ ในหนังสือของครูบาอาจารย์ เวลาพ่อแม่เสียไป ไปหาหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นบอกมันไม่มีอะไรตายหรอก สภาวะกลับคืนไปสู่สภาวะเดิมของเขา เรื่องสภาวะเดิมของเขาคือเรื่องของธาตุนะ เรื่องของดิน น้ำ ลม ไฟ กลับไปอยู่สภาวะเดิมของเขา แต่ธาตุ ๖ นะ อากาศธาตุกับธาตุรู้มันกลับไปสู่สภาวะของการขับเคลื่อนของเชื้อโรคของใจไง เชื้อโรคของใจคือกิเลส กิเลสขับเคลื่อน ใจดวงนี้ขับเคลื่อนไป เห็นไหม ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าย้อนกลับมาตรงนี้ไง ว่าธรรมๆ กับโลกเป็นสภาวะแบบใด

โลกมีความสุข เห็นไหม เด็กหรือว่าเราไปเที่ยวไปเตร่กันมีความสุขมาก นี่เป็นความสุขของโลก เห็นไหม ความสุขของโลกเป็นอามิส เห็นไหม เป็นอามิสคือต้องมีสิ่งตอบสนองมัน มันถึงจะมีความสุขไง ต้องมีสิ่งตอบสนอง ต้องมีความสัมผัส ต้องมีความพอใจ อยากได้สิ่งใดปรนเปรอสิ่งนั้นเข้าไปที่หัวใจจะมีความสุขของโลกอย่างนั้น

โลกถึงหลงตรงนี้ไง หลงตรงนี้ว่าสิ่งนี้เป็นความสุขของใจ สิ่งนี้เป็นความต้องการของใจ สิ่งนี้เป็นตัณหาความทะยานอยากถึงพยายามแสวงหา พยายามค้นคว้า พยายามจะดึงมาเป็นอำนาจของตนไง สิ่งที่อำนาจของตน เห็นไหม สมุทัย สิ่งที่เป็นสมุทัยเข้าอริยสัจไง อริยสัจ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เห็นไหม เรื่องของอริยสัจเป็นสัจจะเป็นความจริง

แต่ถ้าเป็นโลกเราก็ว่าสิ่งนี้เป็นความถูกต้องไง เพราะเราเกิดขึ้นมาแล้วเรามีอำนาจวาสนา คนมีอำนาจวาสนานะ คนมีอำนาจวาสนาจะมีโอกาสบ้าง จะทำอะไรประสบความสำเร็จ นี่คือบุญกุศล แม้แต่บุญกุศลขับเคลื่อนไป มันก็มีบุญกุศลกับอกุศล เวลาขับเคลื่อนไป เห็นไหม เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า สร้างบารมีพระโพธิสัตว์ เห็นไหม ยังต้องสละชีวิตนะ เวลาพระเวชสันดรต้องสละบุตร สละภรรยา

เขาว่าสละบุตรภรรยาเห็นแก่ตัว ความคิดของโลก มันแง่มุมต่างๆ แง่มุมว่าเห็นแก่ตัว ความเห็นแก่ตัวของเขา เขาคิดว่าเห็นแก่ตัวของเขา แต่ความเจ็บปวดของใจของพระเวชสันดรมหาศาลเลย เพราะรักมาก แสวงมาก หวงแหนมาก สิ่งที่หวงแหนนะ เราสละของตัวเราเองเพื่อสิ่งที่เราหวงแหนน่ะ เราทำได้ทั้งนั้นล่ะ แต่เขาไม่ต้องการ เขาต้องการสิ่งที่เราหวงแหนเพื่อให้สะเทือนหัวใจไง สะเทือนหัวใจมันจะเข้าไปสะเทือนถึงโรคของใจไง

ถ้าสะเทือนถึงโรคของใจ บารมีมันสะสมมาอย่างนั้น บารมีของใจนะ บารมีของการบุญกุศลบารมีส่วนหนึ่ง บุญกุศลขับเคลื่อนไป เห็นไหม ถึงบอกว่าจักรวาลหรือวัฏวนมันเป็นสภาวะแบบนี้ มันมีอดีต อนาคตไง อดีต อนาคต เห็นไหม ไปจากปัจจุบันนี้ อดีตส่งมาให้เป็นปัจจุบันนี้ พอเราสร้างบุญกุศลนะ เราสร้างบุญกุศลมาก เราถึงได้เกิดเป็นมนุษย์ เพราะการเกิดเป็นมนุษย์เป็นมนุษย์สมบัติ

สิ่งที่เกิดในโลกนี้ไม่มีของฟรี ธรรมชาติที่หมุนไป ดูพายุมันจะเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะธรรมชาติ เพราะความร้อน เพราะแดด เพราะ เห็นไหม มันรวมตัวขึ้นมา มันเป็นพายุขึ้นมา มันเกิดขึ้นมา ทั้งๆ ที่มันเป็นธรรมชาติอันหนึ่งเกิดแล้วก็สลายไปนะ พายุเกิดขึ้นมามันพัดทุกอย่างพังทลายไปหมดเลย แล้วมันก็หายไป

แต่ความขับเคลื่อนของใจ บุญกุศลสะสมมาอย่างนี้ มันเป็นบุญกุศลมา พระเวสสันดรสร้างสมชาติสุดท้ายมา เห็นไหม ขับเคลื่อนมาถึงเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่ได้ได้โดยส้มหล่น เห็นไหม ได้โดยด้วยการค้นคว้า ได้โดยการออกประพฤติปฏิบัติ ๖ ปี เพราะสัจธรรมอันนี้ต้องการค้นคว้าขึ้นมาจากในหัวใจ

โรคต้องมีหมอรักษามันถึงจะหายไง โรคบางโรค เจ็บไข้ได้ป่วย ปวดหัวตัวร้อน มันหายเองตามธรรมชาติของมัน แต่โรคที่เป็นโรคร้ายแรง รักษาต้องมีหมอ ต้องมีการผ่าตัด ต้องมีการให้ยามันถึงจะหายได้ โรคของกิเลสในหัวใจมันจะเกิดขึ้นมา มันจะหายไปได้ยังไง เพียงแต่บุญกุศลขับเคลื่อนมา เห็นไหม อดีต อนาคต ขับเคลื่อนมาในปัจจุบันนี้

เจ้าชายสิทธัตถะเกิดมาในปัจจุบันนี้แล้วมาขับเคลื่อน มาค้นคว้าสิ่งนี้เพราะอะไร เพราะสร้างสมบุญญาธิการมามหาศาลไง ถือว่าอำนาจวาสนาของเรา เรามีอำนาจวาสนา เราประกอบบุญกุศล เราสร้างอะไรเรามีประสบความสำเร็จ แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทำสิ่งที่ลึกลับมหัศจรรย์ที่โลกนี้ทำไม่ได้ ถ้าโลกนี้ทำได้ เห็นไหม เพราะอะไร เพราะแม้แต่นักวิทยาศาสตร์เดี๋ยวนี้ยังค้นคว้าสิ่งนี้ไม่ได้ ค้นคว้า เห็นไหม

เวลาดูอย่างผู้ที่ศึกษาเล่าเรียน เห็นไหม ภาวนามยปัญญา ทำไมสงสัยนักว่าภาวนามยปัญญาเป็นอย่างไร มรรคสามัคคีเป็นอย่างไร จะไม่มีใครค้นคว้าได้ ปรัชญาตรรกะขนาดไหน ศาสตราจาย์มีความรู้ขนาดไหนของโลก เป็นวิชาชีพ เป็นความเห็นของโลก เห็นไหม เป็นจินตมยปัญญาไม่สามารถเข้าไปแก้กิเลสได้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค้นคว้าสิ่งนี้ ย้อนกลับเข้ามา สิ่งที่ว่าเป็นความละเอียดเป็นความลึกลับ แต่มันเป็นความปัจจัตตัง มันเป็นความสัมผัสของใจดวงนั้น

จุดของจักรวาลไง จุดของจักรวาล แกนกลางของจักรวาลคือดวงใจ ภวาสวะภพสถานที่ตั้งของความคิด สถานที่ตั้งของจิต ของปฏิสนธิจิต จิตที่ปฏิสนธิตัวนี้มันพาเกิดพาตาย เกิดในพรหม เกิดในเทวดา เกิดในอินทร์ เกิดในพรหม เห็นไหม เกิดเป็นมนุษย์ บอกว่ามนุษย์นี้มีอำนาจวาสนามาก มนุษย์นี่สร้างสมบัติมาก เพราะอะไร เพราะเป็นมนุษย์สมบัติต้องได้มาจากศีล ศีล ๕ มนุษย์สมบัติ มีศีล ๕ พอสมควร ถ้าไม่มีมนุษย์สมบัตินะ เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานแน่นอน

เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เกิด ดูสิ ดูสัตว์เดรัจฉาน เห็นไหม เกิดเป็นเปรต เป็นผี เป็นอะไร เกิดหมด จิตดวงนี้มันถึงจักรวาลของจิตมันเป็นอย่างนี้ไง ถ้าขึ้นสูงมันก็เป็นเทวดา เป็นอินทร์ เป็นพรหม เห็นไหม ถ้าลงต่ำไปมันก็เป็นเปรต เป็นนรก เป็นสัตว์เดรัจฉาน แต่ถ้าเป็นปัจจุบันนี้เป็นสถานะกลางที่ให้เรามีโอกาสไง โอกาสที่เรามีร่างกาย ร่างกายบีบคั้นนะ คนเกิดมามีร่างกายมันต้องมีการดำรงชีวิตของมัน มันต้องแสวงหานะ

เซลล์ในร่างกาย เห็นไหม ๗ ปีตายหมด แล้วมันเกิดเซลล์ใหม่ขึ้นมา ในร่างกายเรามีสิ่งที่มีชีวิตมหาศาลเลย แล้วเราต้องหาสิ่งนี้ให้มันสืบต่อมา เพื่อจะรักษาร่างกายนี้ให้เอาใจดวงนี้ไง ให้ทำแกนกลางของจิตดวงนี้ไง ให้ทำแกนกลางคือเข้ามารับดูกิเลสของใจดวงนี้ ถ้าย้อนกลับมาเห็นกิเลสดวงนี้ ดวงนี้ เห็นไหม แต่ถ้าการภาวนาในปัจจุบันนี้ เห็นไหม เวลากำหนดไปมันไม่สงบเข้ามาถึงระดับนี้ไง มันปล่อยวางๆ การปล่อยวางศาสนาเสื่อมนะ เสื่อมตรงนี้ไง เสื่อมเพราะว่าความเข้าไปถึงใจดวงนั้นเข้าไปถึงตรงภวาสวะฐานของกิเลส คือแกนกลางของกิเลสนั้น ไปชำระแกนกลางของกิเลสนั้นไม่ได้ไง

เห็นร่มเงาของมัน แล้วเราก็กวาดร่มเงาของมัน เห็นไหม ใบไม้ตก เห็นไหมใบไม้ตกเราเก็บกวาดแต่ใบไม้ แต่เราไม่สามารถขุดเข้าไปถึงรากแก้วของต้นไม้ได้ เราไม่เห็นรากแก้วของต้นไม้เพราะจิตมันสงบเข้าไปถึงไม่พอ เห็นไหม การประพฤติปฏิบัติถึงว่าพอปล่อยวางแล้วมีความสุข ปล่อยวางแล้วมีความสุข เสื่อมนะ ศาสนาเสื่อม เสื่อมตรงนี้ เสื่อมตรงใจของสัตว์โลก มรรคญาณไม่เกิด สิ่งที่มรรคญาณไม่เกิด ไม่สามารถเข้าไปทำลายกิเลส มันไม่สามารถทำลายแกนกลาง ไม่สามารถทำลายเชื้อ หมอถ้าไม่มีการรักษา โรคนี้หายไม่ได้ โรคนี้หายโดยธรรมชาติไม่ได้

เพราะในสมัยพุทธกาล เห็นไหม เกิดมาแล้วมีความสุข มีความสุข กามสุขัลลิกานุโยค เสวยความสุขตลอดไป คนเราเกิดมาห้าร้อยชาติต้องตายไป เกิดห้าร้อยชาติแล้วต้องดับไป จิตนี้มันถึงนิพพานต่อเมื่อห้าร้อยชาติ เขาคิดของเขา เขาคิดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลก็มีลัทธิอย่างนี้เกิดขึ้นมาเหมือนกัน สิ่งที่ว่าเขาบอกมันจะหายเองไง เสพสุขไปอย่างเดียวแล้วโลกนี้มันจะหาย มันเป็นไปได้อย่างไร เสพสุขขนาดไหนน่ะ เราทำนะ ถ้าเป็นกุศลมันก็เป็นกุศล ถ้าเกิดเป็นอกุศลก็เป็นอกุศล

โรคของจิตใจ โรคจิตใจต้องอาศัยธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าไปชะล้าง เกิดจากเรามีศรัทธา เรามีความเชื่อ เรามีทานนี่ดัดแปลง ดัดแปลงต่อต้านกับความคิดที่เห็นแก่ตัว ความที่เห็นแก่ตัว ถ้าคิดแบบโลก เห็นไหม ทำไมเราต้องเดือดร้อน ทำไมเราต้องแสวงหา เราทำไมต้องไป ทำไมต้องขับเคลื่อนไป เพราะอะไร เพราะเราต้องการขับเคลื่อนสิ เพราะทวนกระแสไง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกทวนกระแส ผู้ที่นอนจมอยู่กับบ้าน ผู้ที่นอนจมอยู่กับเขา เขานอนจมอยู่กับสมบัติเดิมของเขาไง กินของเก่าไง

เกิดเป็นมนุษย์สมบัติมีบุญกุศลมาก แล้วก็อยู่สภาวะแบบนั้น ไม่แสวงหา ไม่ทวนกระแส ไม่พาร่างกายนี้ เห็นไหม ไม่พาหัวใจนี้ให้เข้าถึงฝั่งไง ขณะนี้เราอยู่ในกลางทะเลนะ กลางทะเล แล้วเราต้องว่ายน้ำตลอดเวลา เพราะไม่อย่างนั้นเราต้องจมลงไปในทะเล เห็นไหม ชีวิตนี้ต้องดับไป สิ่งที่ดับไปเราเข้าไม่ถึงฝั่ง แต่ถ้าเรารักษาโรคของใจของเราให้ได้ แกนของกิเลสอันนี้หมดไปจากแกนกลางของมันนะ

จิตดวงนี้ถ้าชำระกิเลสหมด เห็นไหม จิตนี้มีอยู่โดยดั้งเดิม ไม่มีการบุบสลาย คนตายตายแต่ร่างกายแล้วเผากันที่วัดเท่านั้น แต่ไม่มีใครเคยเห็นจิตดวงนี้เผาจิตดวงนี้ได้ ไม่มีเลย มีแต่มรรคญาณทำลายจิตดวงนี้ ทำลายแล้ว เห็นไหม เหมือนกับพลอยนะ พลอยเขาเอามาเผา เห็นไหม จากพลอยไม่มีค่าเลยเผาแล้วจะมีค่ามาก เพราะอะไร เพราะเผาแล้วน้ำมันดีแล้วมีคุณค่ามาก

จิตก็เหมือนกัน ถ้ามรรคญาณทำลายมันแล้วนะ สิ่งที่ทำลายมันแล้ว จากจิตที่ว่าพลอยที่ไม่มีคุณค่า จากพลอยดิบๆ ที่มันต้องเกิดต้องตายในโลกวัฏฏะนี้ ถ้าทำลายสิ่งนี้ออกไป เห็นไหม พลอยนี้มีคุณค่ามาก เพราะมันสิ่งที่ว่ามันไม่มีเชื้อ ไม่มีสิ่งที่ต้องไปอีก แล้วมันมีของมันไง นิพพานเที่ยง เที่ยงอย่างนี้ไง เที่ยงที่มันมีอยู่แต่ไม่ใช่เที่ยงแบบสมมุติที่มีอัตตานี้ พูดปั๊บเป็นผิดทั้งหมดเลย แต่เป็นบุคลาธิษฐาน เป็นความเปรียบเทียบให้เห็นว่าจิตนี้มีอยู่โดยดั้งเดิม มันถึงเข้ากับนิพพานได้ไง เข้ากับนิพพานเพราะนิพพานก็มีอยู่อย่างนี้ตลอดไป ตลอดไป สุขคงที่ตลอดไปนะ

ถ้าเราแก้รักษาโรคของใจเราได้ ในร่างกายมนุษย์นี้เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก ใครค้นคว้าร่างกายมนุษย์ เห็นไหม วิทยาศาสตร์ต่างๆ กล้องต่างๆ หรือสิ่งที่วัตถุ เขาก็คิดค้นมาจากร่างกายของมนุษย์ เปรียบเทียบออกมาจากเลนส์ต่างๆ จากเลนส์ของตา จากเลนส์ คิดออกไป เห็นไหม ร่างกายมนุษย์มหัศจรรย์มาก หัวใจมหัศจรรย์อีกร้อยเท่าพันเท่า แล้วมรรคญาณเกิดขึ้นมา ปัญญาที่เกิดขึ้นกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี่ละเอียดอีกร้อยเท่าพันเท่านะ แล้วชำระกิเลสนี้ออกไปจากใจนะ ศาสนาเจริญรุ่งเรืองในหัวใจของสัตว์โลกไง เอวัง